0111 | 3G 3.9G 4G

ช่วงนี้กระแสกำลังแรง ขอเกาะกระแสกับชาวบ้านเค้าหน่อย กับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน

**** ข้อมูลนี้ไม่เหมาะต่อการอ้างอิงเชิงวิชาการ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ****

ประเด็น 3G 3.9G ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ทุกวันๆ ช่วงนี้มันมีที่มาเมื่อราวๆ สิบปีที่แล้วครับ (ย้อนไปไกลน่าดู)
ซึ่งสาระสำคัญที่เค้าต้องมีการพัฒนาระบบ 3G ขึ้นมาเนื่องมาจากข้อจำกัดของระบบมือถือ 2G ดังนี้ครับ

  • ใช้ช่องสัญญาณไม่คุ้มค่า
  • ความเร็วต่ำ (ทำให้)คุณภาพสัญญาณต่ำ
  • ไม่สามารถใช้ช่องสัญญาณเสียงพร้อมกับช่องสัญญาณข้อมูลได้ (ถึงมีตัวช่วยอย่าง DTM มาก็เหอะ)
  • เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปตามเวลา จะหยุดนิ่งก็กระไรอยู่

เค้าก็เลยพัฒนามาตรฐานที่มีชื่อเล่นๆ เรียกกันติดปากว่า 3G หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ IMT-2000 (เนื่องจากร่างตอนปี ค.ศ.2000)
โดยกำหนดรับประกันความเร็วขั้นต่ำของการใช้รับส่งข้อมูลไว้ที่ 200kbps และให้แก้ปัญหาตามที่พูดมาด้านบนทั้งหมดได้
พอได้มาตรฐานใหม่ เพื่อไม่ให้ชนกับมาตรฐานเดิม ก็เลยต้องกำหนดความถี่มาตรฐานขึ้นมาใหม่สำหรับเอามาใช้กับไอ้เจ้านี่
นั่นจึงเป็นที่มาของความถี่ 2100MHz ที่เป็นข่าวกันอยู่ทุกวันนี้ในไทย
ซึ่งคลื่นความถี่นี้ จริงๆ แล้วจะมีช่องสัญญาณให้ใช้ทั้งหมด 60+60MHz ด้วยกันครับ คือ 2110-2170MHz
กับคู่ความถี่ย่าน 1900 สำหรับ Downlink (ขาส่งจากมือถือเข้าไปหาเสาสัญญาณ) ผมจำเลขความถี่ไม่ได้ขออภัยด้วยครับ แต่กว้างเท่ากันคือ 60MHz


ประเด็นคือ ไอ้คลื่นความถี่ย่าน 2100MHz (รวมไปถึงคู่ความถี่ย่าน 1700, 1900MHz) นี่
ตอน พ.ศ.2543 ขณะนั้นมีการจัดสรรให้บริษัทกิจการค้าร่วม Thai Mobile (CAT+TOT) แถวๆ ย่าน 2155-2170 MHz ไปแล้ว
เพื่อใช้ในการให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์มือถือทั้งระบบ 2G และ 3G ของตัวเอง แล้วก็อย่างที่รู้กันครับ Thai Mobile มีแต่จะเจริญลงๆ ทุกวัน
แล้วสองบริษัทก็ไม่เคยได้ร่วมมือกันจริงจัง 3G ในบ้านเราก็เลยไม่เกิดซักกะทีในตอนนั้น
จนมาเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาล(ไหนไม่รู้ เปลี่ยนจนมึนไปหมดแล้ว)อนุมัติให้ TOT ซื้อหุ้น Thai Mobile มาจาก CAT ทั้งหมด
และผ่านกระบวนการโอนย้ายความถี่ให้อยู่ในการดูแลของ TOT เองทั้งหมด จึงได้ยกเลิกโทรศัพท์ระบบ Thai Mobile
และเปิดบริการใหม่ในระบบ 3G ชื่อ TOT Mobile แล้วก็เป็นความลักลั่นเรื่องสัญญาสัมปทาน 2G กับระบบใบอนุญาตตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และ 2550
ทำให้ทะเลาะกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่าจะเป็นยังไง

ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ระบบ 3G บ้านเรามีค่ายที่ถูกลืมอีก 1 ค่ายครับคือ CAT …. ซึ่งมีความถี่ และมีบริการที่ชื่อว่า CAT CDMA
โดยเน้นเรื่องการใช้ wireless internet access มาตั้งแต่ต้นแล้ว (ผมใช้มาได้สี่ปีกว่าแล้ว) เพียงแต่ติดปัญหาว่า
ตอนทำตลาด ดันไปทำอีท่าไหนไม่รู้ (ขี้เกียจไปหา) ต้องแบ่งพื้นที่การตลาดกับ Hutch คือให้ Hutch ทำโครงข่ายและการตลาดในพืนที่ 25 จังหวัดภาคกลาง
แล้ว CAT ก็ทำในพื้นที่ 51 จังหวัด เหนือ อีสาน ใต้ ซึ่งให้บริการในระบบ CDMA EV-DO รองรับความเร็วสูงสุดที่ 3.1 Mbps
(ใช้งานจริงเฉลี่ยที่ประมาณ 700-1500kbps แล้วแต่พื้นที่และช่วงเวลา) ซึ่งก็นับได้ว่าเป็น 3G แท้ๆ ระบบเดียวกับสองค่ายยักษ์ Verizon และ Sprint ในสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว

ทีนี้พอทุกอย่างเริ่มลงตัวในปีนี้ กทช ก็ผลักดันการประมูลจนประกาศลงราชกิจจานุเบกษาได้แล้ว
แล้วมีประเด็นเรื่อง 3.9G มาอีก ว่ามันคืออะไรยังไง…. ก่อนอื่นมาดูที่เทคโนโลยี 4G ก่อนนะครับ
ข้อกำหนดของเทคโนโลยีระบบ 4G “ตอนนี้” มีประมาณนี้ครับ

  • รองรับความเร็วสูงสุดที่ไม่ต่ำกว่า 100mbps ในสภาวะเคลื่อนที่
  • ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 1gbps กรณีที่อยู่กับที่
  • โครงข่ายเป็น IP-Based Network คือเป็น 100% internet ไม่มีส่วน circuit switching หลงเหลืออยู๋ในระบบ
  • ปรับการใช้ช่องสัญญาณได้ตามปริมาณการใช้งาน

ซึ่งในบรรดาประเทศที่โฆษณาว่ากำลังให้บริการ 4G ทุกวันนี้ก็ยังไม่ถือว่าเป็น 4G เต็มตัวซักทีเดียว
อย่างเช่น Sprint USA ที่ให้บริการ 4G ผ่านระบบ WiMAX ที่มีเครื่องลูกข่ายรองรับคือ HTC EVO 4G
รวมกับพวก Aircard ต่างๆ ก็ทำความเร็วสูงสุดได้ราวๆ 10Mbps ช้ากว่าระบบ 3.9G ที่เรากำลังจะเปิดใช้กันซะอีก (เดี๋ยวมาอธิบาย 3.9G อีกทีนะครับ)
ที่ใกล้เคียงก็เห็นจะเป็นบริษัท TeliaSonera ในประเทศสวีเดน ที่เปิดให้บริการในระบบ LTE ที่ความเร็ว 50/25Mbps เร็วกว่า adsl บ้านเราซะอีก
ซึ่งใช้งานจริงๆ ได้ที่ราวๆ 40/5Mbps ก็ยังเร็วกว่า adsl บ้านเราแบบไม่เห็นฝุ่นอยู่ดี แต่ก็ยังให้บริการได้ในพื้นที่ที่จำกัดเนื่องจากข้อจำกัดด้านช่องสัญญาณ
แล้วปัญหาใหญ่ก็คือ ยังมีมือถือที่รองรับ 4G ไม่ถึงห้ารุ่นด้วยซ้ำ การนำระบบ 4G มาติดตั้งทันทีจึงไม่เป็นผลดีใดๆ ทั้งสิ้นต่อระบบโทรคมนาคมในไทย

กลับมาที่ 3.9G … ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ย 3.9G ก็เป็นการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีของระบบ 3G เหมือนที่เคยทำกับ 2G ที่พัฒนาเป็น GPRS และ EDGE เหมือนกันครับ
ก็แค่เพิ่มความเร็ว เปลี่ยนวิธีการเข้ารหัสสัญญาณ รองรับความเร็วสูงขึ้นกรณีที่ทั้งสองฝั่ง ทั้งเสาสัญญาณ และเครื่องลูกข่ายรองรับ
ดังนั้นมันก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของระบบ 3G แต่ตัว 3.9G นี้ จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 42/11Mbps
เร็วพอๆ กับ 4G ที่สวีเดนกันเลยทีเดียว แต่ใช้จริงได้เท่าไหร่ค่อยว่ากันอีกที

เอาเป็นว่า 4G ยังไกลเกินเอื้อมไปหน่อย อีก 5 ปีค่อยว่ากันใหม่ แต่ตอนนี้ 3(.9)G รีบๆ มาซักทีเถอะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ

.
.
.
.
.
.

ข้อมูลส่วนใหญ่เรียบเรียงมาจากแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/3G
http://en.wikipedia.org/wiki/4G

Tags: , , , , ,