0131 | ทำไมต้องทำ 3G ก่อน ทำไมไม่ข้ามไป 4G เลย?

(ใครขี้เกียจอ่านอารัมภบท แนะนำให้เลื่อนลงไปล่างสุดเลยฮะ)

ใกล้กันเข้ามาแล้วกับการประมูลคลื่นย่าน 2100 สำหรับการให้บริการโทรศัพท์ไร้สายในระบบ IMT โดย กสทช.ครับ ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติและพลิกประวัติศาสตร์วงการโทรคมนาคมประเทศไทยเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว เนื่องจากก่อนหน้านี้การให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกค่าย ต้องตกอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานแบบ BTO คือสร้าง โอนสิทธิ์ แล้วก็ให้บริการ โดย AIS อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานจาก TOT , DTAC True และ DPC (GSM1800) อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานจาก CAT

ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 มีการกำหนดมาให้มีองค์กรอิสระ สำหรับทำหน้าที่บริหารจัดการ “ความถี่” คลื่นวิทยุ เพื่อให้ใช้งานได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด จากเดิมที่คลื่นแต่ละคลื่นถูกหน่วยงานแบ่งกันไปจัดสรรกันเอง เช่น CAT ที่ครอบครองคลื่นย่าน 850 MHz , TOT ที่ครอบครองคลื่นย่าน 900 และ 2300 , MCOT ย่าน 2600 ซึ่งเป็นคลื่นที่มีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นคลื่นที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU กำหนดให้เป็นคลื่นที่มีไว้สำหรับใช้บริการกิจการการโทรคมนาคมระบบต่างๆ หน่วยงาน กสทช จึงได้เกิดขึ้นมา(เมื่อปลายปีที่แล้ว) เพื่อเป็นหน่วยงานกลาง หน่วยงานเดียวเลย ที่มีหน้าที่ในการจัดการ จัดสรรการใช้ความถี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ

เอาล่ะ เข้าเรื่องประมูลคลื่น 2100 MHz กันดีกว่า

คลื่น 2100 MHz เอาไปทำอะไรได้บ้าง

คลื่นย่าน 2100 MHz Band1 (2110 – 2170 MHz และความถี่คู่ย่าน 1900 MHz ที่ 1920 – 1980 MHz) ตามที่ ITU กำหนดมานั้นมีไว้ให้บริการสำหรับการโทรคมนาคมระบบ WCDMA รวมถึง LTE ด้วยครับ หมายความว่าถ้า Operator สนใจ ก็สามารถติดตั้งได้เลยเช่นกัน มีประเทศที่ใช้คลื่นย่าน 2100 MHz ติดตั้ง 4G คือญี่ปุ่นครับ และที่สำคัญ iPhone 5 รุ่นที่จำหน่ายนอกสหรัฐฯ ก็รองรับคลื่นย่านนี้ในระบบ LTE ด้วยเหมือนกัน

จากเงื่อนไขการประมูลที่ระบุไว้ในข้อกำหนดการประมูลของ กสทช. ระบุไว้ดังนี้ครับ

“ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีใดก็ได้ (Neutral Technology) ตามข้อเสนอแนะของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU-R Recommendations) ที่เกี่ยวกับ IMT”

หมายความว่า ถ้า operator พิจารณาแล้วว่าเหมาะสม ก็สามารถแบ่งคลื่น 2100 ที่ประมูลได้ ไปทำ LTE ด้วยก็ได้…

แล้วทำไมไม่ติดตั้ง 4G ไปเลย?

ใช่ว่าของใหม่ทุกอย่างจะดีกว่าของเก่านะครับ (ฮา) คือระบบ 4G LTE เนี่ย เนื่องจากมันเปลี่ยนระบบจาก 2G/3G ไปเกือบหมดเลย ทำให้มีปัญหาตัวใหญ่สุดคือ

“มันโทรออกผ่าน LTE ตรงๆ ได้ไม่สมบูรณ์”

มีใครอยากได้มือถือมาเล่นเน็ตอย่างเดียวไม่โทรออกบ้างมั้ยครับ (มีแหละ แต่คงไม่เยอะขนาดนั้นหรอก) หมายความว่าถ้า operator ติดตั้ง LTE อย่างเดียว การโทรออกทั้งหมดก็ต้อง roaming กลับไปยังเครือข่าย 2G (ที่กำลังจะหมดสัญญาสัมปทาน และต้องโอนคลื่นความถี่พร้อมทรัพย์สินคืนไปให้ผู้ให้สัมปทาน) แล้วจะประมูลคลื่นไปทำไม? และพอ 2G หมดสัญญาสัมปทานแล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ (แต่เดี๋ยวพอทรูมูฟหมดสัญญาสัมปทานปีหน้าแล้วก็รู้กัน)

ที่สำคัญคือ นอกจากไอโฟนห้าแล้ว ทุกวันนี้มือถือที่รองรับ LTE ยังมีในตลาดไม่กี่สิบรุ่นเท่านั้น !! แถมราคาก็… ระดับเดียวกันกับไอโฟนนั่นแหละครับ คนที่ใช้ได้ก็คงเป็นคนในกรุงอย่างเดียว

สรุปแล้วคือ… ไม่มีประโยชน์ที่จะข้ามไปติดตั้ง LTE เพียวๆ โดยไม่ลงทุนติดตั้งระบบ 3G WCDMA ครับ แต่ถ้าติดตั้งปนกันไปเลยบางพื้นที่ก็เป็นไปได้ (เช่นในห้าง) ใช้ 3G 1 slot (2 x 5MHz) แล้วเอา LTE มาช่วยลดภาระการใช้งานช่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต (2 x 10MHz) แบบนี้ก็จะทำให้ใช้งานช่องสัญญาณได้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ

ทำไม LTE โทรออกไม่ได้?

(อันนี้แก้ไขเพิ่มเติมมา) อันที่จริงจะบอกว่าโทรไม่ได้ก็ไม่เชิงนะครับ แต่เนื่องจาก LTE เนี่ย เป็น IP-Based network คือมันเป็นโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายระยะไกล 100% เลย (ตั้งแต่มือถือจับสัญญาณได้ ก็ได้ IP เลย ไม่ต้องต่อเน็ตแยก) แล้วโยนระบบ circuit switch ที่ใช้เป็นช่องสัญญาณสำหรับการคุยกันด้วยเสียงทิ้งไป ทำให้บริการแบบเดิมๆ คือ โทรศัพท์ผ่านระบบมือถือ / SMS ใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง ต้องเปลี่ยนโครงสร้างระบบใหม่ทั้งหมด เป็นการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตแทน (นึกภาพเหมือนเราต่อ Wifi โดยไม่มีสัญญาณมือถือได้ครับ ลักษณะเดียวกัน)

ปัญหาที่สองคือ แล้วเราจะอ้างอิงเบอร์ได้ยังไงในเมื่ออยู่บน internet มันไม่มีเบอร์โทรศัพท์ (มีแต่หมายเลข IP)

ปัญหาที่สาม … แล้วถ้าโทรๆ อยู่สัญญาณ LTE หาย เหลือแต่ 2G/3G จะทำไงให้คุยได้ต่อเนื่อง (นึกภาพกำลังเดินทาง อะไรประมาณนี้)

ปัญหาที่ว่ามานี้ ทางออกกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาครับ ชื่อว่า VoLTE (Voice over LTE) ซึ่งมันยังไม่สมบูรณ์ครับ และยังไม่มีมือถือที่วางขายเครื่องไหนใช้ได้… มีแต่ใน LAB

Tags: , , ,